...
...
...
...
...
...
...
...

ลดพลังงานสู่การเพิ่มพลังเงิน

          หลังมีมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์โควิด ส่งผลให้ปริมาณการใช้พลังงานสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหรือไฟฟ้า อีกทั้งในทุก ๆ ปีของช่วงหน้าร้อนที่หลายบ้านใช้ไฟเยอะมากกว่าปกติ โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าทำความเย็น เช่น แอร์และพัดลม ในขณะเดียวกันบางคนเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด หรือท่องเที่ยวช่วงหยุดยาววันสงกรานต์ ซึ่งคงต้องเติมน้ำมันหลายบาทเลยทีเดียว วันนี้เลยอยากจะชวนทุกคนมาประหยัดพลังงาน โดยเริ่มต้นจากเรื่องง่าย ๆ ใกล้ตัว และไม่ได้ดีกับตัวเราเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์กับสิ่งแวดล้อมด้วย

แม้คำว่า “การประหยัดพลังงาน” เป็นเรื่องที่เราได้ยินกันมาเนิ่นนาน แต่หลายคนก็ยังไม่ได้ลงมือทำกันอย่างจริง ๆ จัง ๆ เราอาจจะเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ ใกล้ตัว อย่างการประหยัดไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น “ปิดสวิตช์ก่อนใช้เสร็จ” เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด เช่น เตารีด ก็สามารถถอดปลั๊กก่อนรีดผ้าเสร็จประมาณ 2-3 นาทีได้ เพราะยังมีความร้อนเหลือพอที่จะรีดต่อได้นั่นเอง รวมถึงการปิดแอร์ก่อนออกจากห้องประมาณ 30-60 นาที ก็จะช่วยประหยัดไฟได้อีกประมาณ 75-95 บาทต่อเดือนเลย

นอกจากนี้ รู้หรือไม่ว่าการ เปิดแอร์พร้อมพัดลม” ก็ถือเป็นการช่วยเซฟพลังงานได้ด้วยนะ โดยเปิดแอร์ที่ 26 องศาเซลเซียส พร้อมกับเปิดพัดลม จะช่วยกระจายลมแล้วทำให้บ้านเย็นสบายขึ้น ปิดประตู-หน้าต่างให้สนิทขณะใช้งาน ไม่ให้ไอเย็นรั่วไหล จะช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกต่างหาก และอย่าลืมล้างแอร์ปีละ 2 ครั้ง เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกด้วย

ส่วนใครที่มีแพลนจะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าก็อย่าดูแค่ความสวยงามอย่างเดียว ให้ สังเกตฉลากประหยัดไฟ” ก่อนซื้อด้วย เช่น เลือกฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 มีเครื่องหมาย มอก. Energy Star หรือเลือกใช้โน้ตบุ๊กแทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เพราะจะช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าถึง 3 เท่า !

ในวันที่อยู่บ้านควร เปิดหน้าต่างลดการเปิดไฟ เพราะยิ่งเปิดทางให้แสงเข้ามาในบ้านหรือห้องมากเท่าไร ยิ่งช่วยลดการใช้ไฟได้มากเท่านั้น อีกทั้งแสงจากธรรมชาติยังช่วยให้ภายในห้องสว่าง ปลอดโปร่ง สบายตา แถมช่วยระบายความร้อนออกไป หรือจะลองติดฟิล์มที่กระจกหรือใช้ผ้าม่านกันแดด ก็สามารถช่วยลดความร้อนในบ้านไปพร้อมกันได้ แต่ถ้าหน้าต่างเล็กหรือเพิ่มช่องแสงไม่ได้ ลองเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED แทน ก็ช่วยได้อีกทางเช่นกัน

อีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจคือ การหันมาใช้พลังงานสะอาดแทน อย่างเช่น ติดตั้งโซลาร์รูฟ” เทรนด์ที่กำลังมาแรง ซึ่งนอกจากเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังลดการปล่อยก๊าซพิษ ประหยัดค่าไฟ แถมยังสามารถส่งส่วนเกินขายให้กับหน่วยงานของการไฟฟ้าในพื้นที่ได้อีกด้วย และถ้าใครเป็นสายกรีนก็ลอง ปลูกต้นไม้ในบ้าน” ดูได้ เพราะถือเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ส่วนผลพลอยได้ที่ตามมาคือ ความสวยงาม ร่มรื่น และทำให้บ้านเย็นขึ้น ช่วยลดการใช้แอร์-พัดลมได้อีกด้วย โดยเฉพาะต้นไม้ 7 ชนิดนี้ ได้แก่ ต้นไทรย้อยใบแหลม ต้นยางอินเดีย ต้นหมากเหลือง ต้นเฟิร์น ต้นว่านหางจระเข้ ต้นลิ้นมังกร และต้นพลูด่าง หรือหากบริเวณบ้านมีที่ว่าง จะเลือกปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาแทนก็ได้ 1 ต้น ให้ความเย็นเท่ากับแอร์ขนาด 12,000 BTU เลยทีเดียว

 

อีกหนึ่งพลังงานสำคัญที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย นั่นก็คือ “น้ำมัน” แต่เราสามารถ “เริ่ม” จากการใช้ให้น้อยลงได้ และ “ลด” ความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอัตราสิ้นเปลืองได้ ดังนี้

  • เปรียบเทียบราคาน้ำมันก่อนเติม แม้จะเป็นน้ำมันชนิดเดียวกัน แต่ราคาน้ำมันของแต่ละปั๊มนั้นไม่เท่ากัน ลองเช็กราคาก่อนเติม เพราะอาจจะต่างกันแค่ไม่กี่สตางค์ แต่หากเติมเยอะ ๆ ก็ช่วยประหยัดได้หลายบาทอยู่เหมือนกัน
     
  • เช็กสภาพรถก่อนเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นตัวรถและเครื่องยนต์ ควรอยู่ในสภาพดี ไม่มีส่วนใดชำรุด เพื่อความปลอดภัยขณะขับขี่ โดยเฉพาะลมยางควรเติมในระดับที่เหมาะสม เพราะหากลมยางอ่อนเกินไปจะเกิดแรงเสียดทานเยอะ แต่หากลมยางแข็งเกินไปก็จะทำให้ยึดเกาะถนนน้อยและกินน้ำมันมากขึ้น
     
  • รักษาความเร็วให้คงที่ เพราะการขับด้วยความเร็วคงที่ประมาณ 80-90 กม./ชม. สามารถลดอัตราสิ้นเปลืองได้ถึง 20% และหากเป็นไปได้พยายามหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วนหรือเส้นทางที่มีการจราจรติดขัด โดยเฉพาะหากจำเป็นต้องเดินทางไปหลายที่

 

  • ไม่เก็บสัมภาระไว้ในรถเยอะ เพราะยิ่งมีของมากเท่าไร ยิ่งมีผลต่ออัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเท่านั้น เก็บไว้เฉพาะของสำคัญที่ต้องใช้จะดีกว่า และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการเก็บสัมภาระไว้บนหลังคา เพราะจะเพิ่มแรงต้านลมขณะขับ และทำให้รถต้องใช้พลังงานมากขึ้น
     
  • ใช้แอร์ประหยัดกว่าเปิดหน้าต่าง รวมถึงช่องลมบนหลังคา เพราะจะทำให้เกิดแรงฉุดขณะขับรถ เพราะลมเข้ามาภายในทิศทางตรงกันข้ามกับทางที่รถวิ่ง ทำให้ประหยัดน้ำมันมากกว่าการเปิดแอร์นั่นเอง
     
  • หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า บอกเลยว่าดีกับคนที่ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางระยะยาวอย่างแน่นอน เพราะใช้เชื้อเพลิงหมุนเวียน ซึ่งเป็นพลังงานแถมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และค่าบำรุงรักษายังต่ำกว่าใช้น้ำมันอีกต่างหาก

 

หลายคนอาจคิดว่า ประหยัดพลังงานแล้วได้อะไร ? ก็ต้องบอกเลยว่ามีประโยชน์มหาศาล ! รับรองว่ารู้แล้วจะอยากประหยัดขึ้นมาทันทีแน่นอน...

  • ประหยัดค่าใช้จ่าย : ทั้งค่าไฟและค่าน้ำมันต่างก็เป็นภาระที่ต้องเสียในทุก ๆ เดือน หากสามารถลดการใช้ได้ เท่ากับลดรายจ่ายในส่วนนี้ไปด้วยนั่นเอง
  • ลดการนำเข้าพลังงาน : หากมีปริมาณการใช้พลังงานภายในประเทศน้อยลง การนำเข้าก็จะลดลงตามไปด้วย เป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประเทศได้อีกทาง แถมยังเป็นการลดต้นทุน และอาจส่งผลให้ราคาพลังงานในประเทศลดลงด้วยเช่นกัน
  • ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม : โดยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์หรือก๊าซพิษสู่ชั้นบรรยากาศ สาเหตุของการเกิดปัญหาเรือนกระจก
  • ยืดอายุการใช้งาน : ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและรถต่างก็มีอายุการใช้งานจำกัด หากลดจำนวนการใช้ลงมา เท่ากับเป็นการถนอมและช่วยยืดอายุให้กับสิ่งของเหล่านั้นด้วย

ในยุคที่ค่าครองชีพสูงแบบนี้ มีอะไรที่เราสามารถประหยัดได้ก็ช่วยกันประหยัดกันนะคะ โดยเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ อย่างการลดใช้พลังงาน เช่น ไฟฟ้าและน้ำมัน แถมได้เซฟค่าใช้จ่ายไปในตัว มีเงินเหลือเก็บ และยังส่งผลดีกับสิ่งแวดล้อมด้วย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก การไฟฟ้านครหลวง MEAเฟซบุ๊ก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEAการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคการไฟฟ้านครหลวง (1) (2)เฟซบุ๊ก สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (1) (2)สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเฟซบุ๊ก กระทรวงพลังงาน (1) (2) (3)สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ตาก และ energysage