หมวด ---- เลือกหมวดข้อมูล ---- รายงานประจำปี เทศบาลตำบลบ้านแปะแหล่งเรียนรู้ และสถานที่ท่องเที่ยวในตำบลบ้านแปะแบบประเมินองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีศักยภาพสูง HPA (High-Potentiated Local Assessment)งานตรวจสอบภายในกิจกรรม / โครงการ กองช่าง เทศบาลตำบลบ้านแปะงานส่งเสริมการท่องเที่ยว เทศบาลตำบลบ้านแปะรายงานติดตามและประเมินผล แผนพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ.2566-2570) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566แผนพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ.2566-2570) เพิ่มเติมเปลี่ยนแปลง ครั้งที่ 2/2566ประกาศเทศบาลตำบลบ้านแปะ เรื่อง รับสมัครคัดเลือกพนักงาน ให้ดำรงตำแหน่งต่างสายงาน จากสายงานประเภททั่วไป ให้ดำรงตำแหน่งในสายงานประเภทวิชาการรายงานผลการปฏิบัติงานตามนโยบายนายกเทศมนตรีตำบลบ้านแปะ ประจำปีงบประมาณ 2566กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประเมินประสิทธิภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (LPA) 2566คู่มือหรือมาตรฐานการให้บริการSocial NetworkE-serviceการประเมินความเสี่ยงเพื่อป้องกันการทุจริตคู่มือหรือมาตรฐานการปฏิบัติงานกฎหมายที่เกี่ยวข้องการดำเนินงานการจัดการเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบการเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วมมาตรการเสริมสร้างมาตรฐานทางจริยธรรมการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลE-Reportประชาสัมพันธ์ ช่องทางการแจ้งเบาะแสการติดตั้งป้ายโฆษณาหรือสิ่งรุกล้ำทางสาธารณะการดำเนินการเพื่อป้องกันการทุจริตมาตราการส่งเสริมความโปร่งใสและป้องกันการทุจริตภายในหน่วยงานรายงานประชุมประชาคมหมู่บ้านรายงานการประชุมประชาคมท้องถิ่นระดับตำบลบันทึกการประชุมพนักงานเทศบาลหนังสือส่งการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ(ITA)รายงานสรุปผลการจัดซื้อจัดจ้าง ตามแนวทางหนังสือ ส.ถ. ที่ มท 0808.2/ว 1911 ลงวันที่ 23 ตุลาคม 2548 เรื่องการดำเนินการตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 9 วรรคหนึ่ง (8)การเปิดเผยข้อมูล(ITA)แผนป้องกันการทุจริตการส่งเสริมความโปร่งใสรายงานผลการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลประจำปีรายงานผลการประเมินประสิทธิภาพของ อปท.ประกาศผลผู้ชนะการจัดซื้อจัดจ้างหรือผู้ได้รับการคัดเลือก(รายไตรมาส) กรณีไม่ได้ดำเนินการในระบบ e-GP ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0405.2/ว 62 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562ประกาศเผยแพร่รายละเอียดข้อมูลราคากลางและการคำนวณราคากลางเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐ ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค ๐๔๓๓.๒/ว๒๐๖ ลงวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๒การให้บริการงานพัฒนารายได้สัญญา/ข้อตกลงงานวิเคราะห์นโยบายและแผนงานกิจการสภาเทศบาลตำบลบ้านแปะประกาศผลผู้ชนะการซื้้อหรือการจ้างศูนย์รับเรื่องราวร้องเรียน/ร้องทุกข์และร้องเรียนการจัดซื้อจัดจ้างศูนย์ช่วยเหลือประชาชนแผนการจัดซื้อจัดจ้างตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560ศูนย์ข้อมูลข่าวสารแผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริต 5 ปีรายงานผล/การวิเคราะห์ผลการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีรายงานผล/สรุปผลการจัดซื้อจัดจ้างแผนปฏิบัติการจัดซื้อจัดจ้างและการรายงานผลแผนจัดหาพัสดุ แผนฏิบัติการจัดซื้อจัดจ้าง และการรายงานผลสารสนเทศข่าวสารจาก อปท.รายงานทางการเงินข่าวจัดซื้อ จัดจ้างข่าวประชาสัมพันธ์รายงานการตรวจสอบงบการเงิน เพิ่มหมวดข้อมูล
รูปภาพ * กว้าง 500 px, สูง 375 px
หัวข้อ
เกริ่นนำ
ลงวันที่ 01 02 03 04 05 06 07 08 09 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม 2562 2563 2564 2565 2566 2567 2568 2569 2570 2571 2572 2573 2574 2575 2576 2577 2578 2579 2580 2581
หลังมีมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์โควิด ส่งผลให้ปริมาณการใช้พลังงานสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหรือไฟฟ้า อีกทั้งในทุก ๆ ปีของช่วงหน้าร้อนที่หลายบ้านใช้ไฟเยอะมากกว่าปกติ โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าทำความเย็น เช่น แอร์และพัดลม ในขณะเดียวกันบางคนเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด หรือท่องเที่ยวช่วงหยุดยาววันสงกรานต์ ซึ่งคงต้องเติมน้ำมันหลายบาทเลยทีเดียว วันนี้เลยอยากจะชวนทุกคนมาประหยัดพลังงาน โดยเริ่มต้นจากเรื่องง่าย ๆ ใกล้ตัว และไม่ได้ดีกับตัวเราเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์กับสิ่งแวดล้อมด้วย แม้คำว่า “การประหยัดพลังงาน” เป็นเรื่องที่เราได้ยินกันมาเนิ่นนาน แต่หลายคนก็ยังไม่ได้ลงมือทำกันอย่างจริง ๆ จัง ๆ เราอาจจะเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ ใกล้ตัว อย่างการประหยัดไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น “ปิดสวิตช์ก่อนใช้เสร็จ” เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด เช่น เตารีด ก็สามารถถอดปลั๊กก่อนรีดผ้าเสร็จประมาณ 2-3 นาทีได้ เพราะยังมีความร้อนเหลือพอที่จะรีดต่อได้นั่นเอง รวมถึงการปิดแอร์ก่อนออกจากห้องประมาณ 30-60 นาที ก็จะช่วยประหยัดไฟได้อีกประมาณ 75-95 บาทต่อเดือนเลย นอกจากนี้ รู้หรือไม่ว่าการ “เปิดแอร์พร้อมพัดลม” ก็ถือเป็นการช่วยเซฟพลังงานได้ด้วยนะ โดยเปิดแอร์ที่ 26 องศาเซลเซียส พร้อมกับเปิดพัดลม จะช่วยกระจายลมแล้วทำให้บ้านเย็นสบายขึ้น ปิดประตู-หน้าต่างให้สนิทขณะใช้งาน ไม่ให้ไอเย็นรั่วไหล จะช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกต่างหาก และอย่าลืมล้างแอร์ปีละ 2 ครั้ง เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกด้วย ส่วนใครที่มีแพลนจะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าก็อย่าดูแค่ความสวยงามอย่างเดียว ให้ “สังเกตฉลากประหยัดไฟ” ก่อนซื้อด้วย เช่น เลือกฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 มีเครื่องหมาย มอก. Energy Star หรือเลือกใช้โน้ตบุ๊กแทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เพราะจะช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าถึง 3 เท่า ! ในวันที่อยู่บ้านควร “เปิดหน้าต่างลดการเปิดไฟ” เพราะยิ่งเปิดทางให้แสงเข้ามาในบ้านหรือห้องมากเท่าไร ยิ่งช่วยลดการใช้ไฟได้มากเท่านั้น อีกทั้งแสงจากธรรมชาติยังช่วยให้ภายในห้องสว่าง ปลอดโปร่ง สบายตา แถมช่วยระบายความร้อนออกไป หรือจะลองติดฟิล์มที่กระจกหรือใช้ผ้าม่านกันแดด ก็สามารถช่วยลดความร้อนในบ้านไปพร้อมกันได้ แต่ถ้าหน้าต่างเล็กหรือเพิ่มช่องแสงไม่ได้ ลองเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED แทน ก็ช่วยได้อีกทางเช่นกัน อีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจคือ การหันมาใช้พลังงานสะอาดแทน อย่างเช่น “ติดตั้งโซลาร์รูฟ” เทรนด์ที่กำลังมาแรง ซึ่งนอกจากเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังลดการปล่อยก๊าซพิษ ประหยัดค่าไฟ แถมยังสามารถส่งส่วนเกินขายให้กับหน่วยงานของการไฟฟ้าในพื้นที่ได้อีกด้วย และถ้าใครเป็นสายกรีนก็ลอง “ปลูกต้นไม้ในบ้าน” ดูได้ เพราะถือเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ส่วนผลพลอยได้ที่ตามมาคือ ความสวยงาม ร่มรื่น และทำให้บ้านเย็นขึ้น ช่วยลดการใช้แอร์-พัดลมได้อีกด้วย โดยเฉพาะต้นไม้ 7 ชนิดนี้ ได้แก่ ต้นไทรย้อยใบแหลม ต้นยางอินเดีย ต้นหมากเหลือง ต้นเฟิร์น ต้นว่านหางจระเข้ ต้นลิ้นมังกร และต้นพลูด่าง หรือหากบริเวณบ้านมีที่ว่าง จะเลือกปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาแทนก็ได้ 1 ต้น ให้ความเย็นเท่ากับแอร์ขนาด 12,000 BTU เลยทีเดียว อีกหนึ่งพลังงานสำคัญที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย นั่นก็คือ “น้ำมัน” แต่เราสามารถ “เริ่ม” จากการใช้ให้น้อยลงได้ และ “ลด” ความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอัตราสิ้นเปลืองได้ ดังนี้ เปรียบเทียบราคาน้ำมันก่อนเติม แม้จะเป็นน้ำมันชนิดเดียวกัน แต่ราคาน้ำมันของแต่ละปั๊มนั้นไม่เท่ากัน ลองเช็กราคาก่อนเติม เพราะอาจจะต่างกันแค่ไม่กี่สตางค์ แต่หากเติมเยอะ ๆ ก็ช่วยประหยัดได้หลายบาทอยู่เหมือนกัน เช็กสภาพรถก่อนเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นตัวรถและเครื่องยนต์ ควรอยู่ในสภาพดี ไม่มีส่วนใดชำรุด เพื่อความปลอดภัยขณะขับขี่ โดยเฉพาะลมยางควรเติมในระดับที่เหมาะสม เพราะหากลมยางอ่อนเกินไปจะเกิดแรงเสียดทานเยอะ แต่หากลมยางแข็งเกินไปก็จะทำให้ยึดเกาะถนนน้อยและกินน้ำมันมากขึ้น รักษาความเร็วให้คงที่ เพราะการขับด้วยความเร็วคงที่ประมาณ 80-90 กม./ชม. สามารถลดอัตราสิ้นเปลืองได้ถึง 20% และหากเป็นไปได้พยายามหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วนหรือเส้นทางที่มีการจราจรติดขัด โดยเฉพาะหากจำเป็นต้องเดินทางไปหลายที่ ไม่เก็บสัมภาระไว้ในรถเยอะ เพราะยิ่งมีของมากเท่าไร ยิ่งมีผลต่ออัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเท่านั้น เก็บไว้เฉพาะของสำคัญที่ต้องใช้จะดีกว่า และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการเก็บสัมภาระไว้บนหลังคา เพราะจะเพิ่มแรงต้านลมขณะขับ และทำให้รถต้องใช้พลังงานมากขึ้น ใช้แอร์ประหยัดกว่าเปิดหน้าต่าง รวมถึงช่องลมบนหลังคา เพราะจะทำให้เกิดแรงฉุดขณะขับรถ เพราะลมเข้ามาภายในทิศทางตรงกันข้ามกับทางที่รถวิ่ง ทำให้ประหยัดน้ำมันมากกว่าการเปิดแอร์นั่นเอง หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า บอกเลยว่าดีกับคนที่ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางระยะยาวอย่างแน่นอน เพราะใช้เชื้อเพลิงหมุนเวียน ซึ่งเป็นพลังงานแถมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และค่าบำรุงรักษายังต่ำกว่าใช้น้ำมันอีกต่างหาก หลายคนอาจคิดว่า ประหยัดพลังงานแล้วได้อะไร ? ก็ต้องบอกเลยว่ามีประโยชน์มหาศาล ! รับรองว่ารู้แล้วจะอยากประหยัดขึ้นมาทันทีแน่นอน... ประหยัดค่าใช้จ่าย : ทั้งค่าไฟและค่าน้ำมันต่างก็เป็นภาระที่ต้องเสียในทุก ๆ เดือน หากสามารถลดการใช้ได้ เท่ากับลดรายจ่ายในส่วนนี้ไปด้วยนั่นเอง ลดการนำเข้าพลังงาน : หากมีปริมาณการใช้พลังงานภายในประเทศน้อยลง การนำเข้าก็จะลดลงตามไปด้วย เป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประเทศได้อีกทาง แถมยังเป็นการลดต้นทุน และอาจส่งผลให้ราคาพลังงานในประเทศลดลงด้วยเช่นกัน ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม : โดยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์หรือก๊าซพิษสู่ชั้นบรรยากาศ สาเหตุของการเกิดปัญหาเรือนกระจก ยืดอายุการใช้งาน : ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและรถต่างก็มีอายุการใช้งานจำกัด หากลดจำนวนการใช้ลงมา เท่ากับเป็นการถนอมและช่วยยืดอายุให้กับสิ่งของเหล่านั้นด้วย ในยุคที่ค่าครองชีพสูงแบบนี้ มีอะไรที่เราสามารถประหยัดได้ก็ช่วยกันประหยัดกันนะคะ โดยเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ อย่างการลดใช้พลังงาน เช่น ไฟฟ้าและน้ำมัน แถมได้เซฟค่าใช้จ่ายไปในตัว มีเงินเหลือเก็บ และยังส่งผลดีกับสิ่งแวดล้อมด้วย ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก การไฟฟ้านครหลวง MEA, เฟซบุ๊ก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEA, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, การไฟฟ้านครหลวง (1) (2), เฟซบุ๊ก สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (1) (2), สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, เฟซบุ๊ก กระทรวงพลังงาน (1) (2) (3), สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ตาก และ energysage
หลังมีมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์โควิด ส่งผลให้ปริมาณการใช้พลังงานสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหรือไฟฟ้า อีกทั้งในทุก ๆ ปีของช่วงหน้าร้อนที่หลายบ้านใช้ไฟเยอะมากกว่าปกติ โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าทำความเย็น เช่น แอร์และพัดลม ในขณะเดียวกันบางคนเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด หรือท่องเที่ยวช่วงหยุดยาววันสงกรานต์ ซึ่งคงต้องเติมน้ำมันหลายบาทเลยทีเดียว วันนี้เลยอยากจะชวนทุกคนมาประหยัดพลังงาน โดยเริ่มต้นจากเรื่องง่าย ๆ ใกล้ตัว และไม่ได้ดีกับตัวเราเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์กับสิ่งแวดล้อมด้วย
แม้คำว่า “การประหยัดพลังงาน” เป็นเรื่องที่เราได้ยินกันมาเนิ่นนาน แต่หลายคนก็ยังไม่ได้ลงมือทำกันอย่างจริง ๆ จัง ๆ เราอาจจะเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ ใกล้ตัว อย่างการประหยัดไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น “ปิดสวิตช์ก่อนใช้เสร็จ” เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด เช่น เตารีด ก็สามารถถอดปลั๊กก่อนรีดผ้าเสร็จประมาณ 2-3 นาทีได้ เพราะยังมีความร้อนเหลือพอที่จะรีดต่อได้นั่นเอง รวมถึงการปิดแอร์ก่อนออกจากห้องประมาณ 30-60 นาที ก็จะช่วยประหยัดไฟได้อีกประมาณ 75-95 บาทต่อเดือนเลย
นอกจากนี้ รู้หรือไม่ว่าการ “เปิดแอร์พร้อมพัดลม” ก็ถือเป็นการช่วยเซฟพลังงานได้ด้วยนะ โดยเปิดแอร์ที่ 26 องศาเซลเซียส พร้อมกับเปิดพัดลม จะช่วยกระจายลมแล้วทำให้บ้านเย็นสบายขึ้น ปิดประตู-หน้าต่างให้สนิทขณะใช้งาน ไม่ให้ไอเย็นรั่วไหล จะช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกต่างหาก และอย่าลืมล้างแอร์ปีละ 2 ครั้ง เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกด้วย
ส่วนใครที่มีแพลนจะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าก็อย่าดูแค่ความสวยงามอย่างเดียว ให้ “สังเกตฉลากประหยัดไฟ” ก่อนซื้อด้วย เช่น เลือกฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 มีเครื่องหมาย มอก. Energy Star หรือเลือกใช้โน้ตบุ๊กแทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เพราะจะช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าถึง 3 เท่า !
ในวันที่อยู่บ้านควร “เปิดหน้าต่างลดการเปิดไฟ” เพราะยิ่งเปิดทางให้แสงเข้ามาในบ้านหรือห้องมากเท่าไร ยิ่งช่วยลดการใช้ไฟได้มากเท่านั้น อีกทั้งแสงจากธรรมชาติยังช่วยให้ภายในห้องสว่าง ปลอดโปร่ง สบายตา แถมช่วยระบายความร้อนออกไป หรือจะลองติดฟิล์มที่กระจกหรือใช้ผ้าม่านกันแดด ก็สามารถช่วยลดความร้อนในบ้านไปพร้อมกันได้ แต่ถ้าหน้าต่างเล็กหรือเพิ่มช่องแสงไม่ได้ ลองเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED แทน ก็ช่วยได้อีกทางเช่นกัน
อีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจคือ การหันมาใช้พลังงานสะอาดแทน อย่างเช่น “ติดตั้งโซลาร์รูฟ” เทรนด์ที่กำลังมาแรง ซึ่งนอกจากเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังลดการปล่อยก๊าซพิษ ประหยัดค่าไฟ แถมยังสามารถส่งส่วนเกินขายให้กับหน่วยงานของการไฟฟ้าในพื้นที่ได้อีกด้วย และถ้าใครเป็นสายกรีนก็ลอง “ปลูกต้นไม้ในบ้าน” ดูได้ เพราะถือเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ส่วนผลพลอยได้ที่ตามมาคือ ความสวยงาม ร่มรื่น และทำให้บ้านเย็นขึ้น ช่วยลดการใช้แอร์-พัดลมได้อีกด้วย โดยเฉพาะต้นไม้ 7 ชนิดนี้ ได้แก่ ต้นไทรย้อยใบแหลม ต้นยางอินเดีย ต้นหมากเหลือง ต้นเฟิร์น ต้นว่านหางจระเข้ ต้นลิ้นมังกร และต้นพลูด่าง หรือหากบริเวณบ้านมีที่ว่าง จะเลือกปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาแทนก็ได้ 1 ต้น ให้ความเย็นเท่ากับแอร์ขนาด 12,000 BTU เลยทีเดียว
อีกหนึ่งพลังงานสำคัญที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย นั่นก็คือ “น้ำมัน” แต่เราสามารถ “เริ่ม” จากการใช้ให้น้อยลงได้ และ “ลด” ความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอัตราสิ้นเปลืองได้ ดังนี้
หลายคนอาจคิดว่า ประหยัดพลังงานแล้วได้อะไร ? ก็ต้องบอกเลยว่ามีประโยชน์มหาศาล ! รับรองว่ารู้แล้วจะอยากประหยัดขึ้นมาทันทีแน่นอน...
ในยุคที่ค่าครองชีพสูงแบบนี้ มีอะไรที่เราสามารถประหยัดได้ก็ช่วยกันประหยัดกันนะคะ โดยเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ อย่างการลดใช้พลังงาน เช่น ไฟฟ้าและน้ำมัน แถมได้เซฟค่าใช้จ่ายไปในตัว มีเงินเหลือเก็บ และยังส่งผลดีกับสิ่งแวดล้อมด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก การไฟฟ้านครหลวง MEA, เฟซบุ๊ก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEA, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, การไฟฟ้านครหลวง (1) (2), เฟซบุ๊ก สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (1) (2), สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, เฟซบุ๊ก กระทรวงพลังงาน (1) (2) (3), สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ตาก และ energysage
ลำดับ * ใส่ตัวเลขที่ต้องการลงไป
แสดงข้อมูล แสดงข้อมูล ไม่แสดงข้อมูล